วิธีคิดแบบอัตราขั้นบันได
ขั้นตอนแรก หาเงินได้สุทธิ
เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
ขั้นตอนที่สอง หาภาษีที่จะต้องจ่าย
เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย
อัตราภาษีเราจะหาได้โดยจากการใช้ตารางด้านล่าง โดยใช้เงินได้สุทธิที่เราคำนวณมาได้มาเทียบกับตาราง
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
1 – 150,000 | ได้รับยกเว้น | – | – |
150,001 – 300,000 | 5% | 7,500 | 7,500 |
300,001 – 500,000 | 10% | 20,000 | 27,500 |
500,001 – 750,000 | 15% | 37,500 | 65,000 |
750,001 – 1,000,000 | 20% | 50,000 | 115,000 |
1,000,001 – 2,000,000 | 25% | 250,000 | 365,000 |
2,000,001 – 5,000,000 | 30% | 900,000 | 1,265,000 |
5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% | – |
แว๊บแรกที่คุณเห็นตารางนี้ อาจจะรู้สึกงงว่าทำไมตัวเลขเยอะไปหมด อย่าเพิ่งกลัวไปครับ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย อยากให้มองว่านี้คือตารางวิเศษที่จะช่วยให้คุณได้รู้ว่าในแต่ละปีคุณต้องเสียภาษีเท่าไหร่ เพื่อที่จะทำให้คุณมั่นใจว่าเข้าใจและใช้ตารางนี้ได้จริง เรามี 2 ตัวอย่างที่จะทำให้คุณเห็นภาพกับการใช้ตารางนี้เพื่อคิดภาษีที่คุณจะต้องเสีย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูตัวอย่างแรกกันเลย
อัตราภาษีเงินได้ แบบขั้นบันได
(1) เงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท (อัตราภาษี 0% ) หากคุณอยู่ในขั้นแรกโดยเงินได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท คุณจะไม่ต้องเสียภาษีเลย เนื่องจากได้รับการยกเว้น
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
1 – 150,000 | ได้รับยกเว้น | – | – |
(2) เงินได้สุทธิ 150,000 – 300,000 บาท (อัตราภาษี 5%)
วิธีคิดค่าภาษี (เงินได้สุทธิ – 150,000) x5% หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 7,500 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
150,001 – 300,000 | 5% | 7,500 | 7,500 |
(3) เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท (อัตราภาษี 10%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 300,000) x10% ] + 7,500 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 7,500 – 27,500 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
300,001 – 500,000 | 10% | 20,000 | 27,500 |
(4) เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท (อัตราภาษี 15%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 500,000) x15% ] + 27,500 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 27,500 – 65,000 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
500,001 – 750,000 | 15% | 37,500 | 65,000 |
(5) เงินได้สุทธิ 750,001 – 1 ล้านบาท (อัตราภาษี 20%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 750,000) x20% ] + 65,000 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 65,000 – 115,000 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
750,001 – 1,000,000 | 20% | 50,000 | 115,000 |
(6) เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 บาท (อัตราภาษี 25%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 1,000,000) x25% ] + 115,000 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 115,000 – 365,000 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
1,000,001 – 2,000,000 | 25% | 250,000 | 365,000 |
(7) เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 บาท (อัตราภาษี 30%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 2,000,000) x30% ] + 365,000 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้สูงสุดไม่เกิด 365,000 – 1,265,000 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
2,000,001 – 5,000,000 | 30% | 900,000 | 1,265,000 |
(8) เงินได้สุทธิมากกว่า 5 ล้านบาท (อัตราภาษี 35%)
วิธีคิดค่าภาษี [ (เงินได้สุทธิ – 5,000,000) x35% ] + 1,265,000 หากคุณอยู่ในขั้นบันไดนี้ คุณจะเสียเงินได้มากกว่า 1,265,000 บาท
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% | – |
ตัวอย่างการคิดแบบขั้นบันได
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจการใช้ตารางนี้ เราลองมาดูตัวอย่างการคิดกันเลย
ขอแทรกก่อนที่จะเข้าสู่ตัวอย่าง . . . เนื่องจากตัวอย่างที่เรายกมานั้น เป้าหมายคือต้องการให้คุณเข้าใจการใช้ตารางภาษีดังกล่าว ดังนั้นเราจึงยกรายได้สุทธิมาเพื่อง่ายต่อการเทียบในตารางได้เลย แต่อย่าลืมว่า ในชีวิตจริง คุณจะต้องหา รายได้สุทธิมาก่อน ซึ่งมาจาก เงินได้สุทธิ = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
ตัวอย่างที่ 1 นายเอเป็นมนุษย์เงินเดือนมีเงินได้สุทธิ 145,000 บาท นายเอจะต้องเสียภาษีเท่าไหร่
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
1 – 150,000 | ได้รับยกเว้น | – | – |
ในตัวอย่างนี้ เงินได้สุทธิของนายเอยังไม่เกิน 150,000 บาท ทำให้ได้รับการยกเว้น ดังนั้นนายเอจึงไม่ต้องเสียภาษีเลย
ตัวอย่างที่ 2 นายบีเป็นผู้จัดการฝ่ายของบริษัทแห่งหนึ่งมีเงินได้สุทธิ 720,000 บาท นายบีจะต้องเสียภาษีเท่าไหร่
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี | ภาษีแต่ละขั้น (บาท) | ภาษีสะสมสูงสุด (บาท) |
---|---|---|---|
500,001 – 750,000 | 15% | 37,500 | 65,000 |
เงินได้สุทธิของนายบีอยู่ในช่วงของ 500,001 – 750,000 บาท ซึ่งอัตราภาษีคือ 15%
หลังจากที่เราคำนวณภาษีของนาบเอและนายบีได้แล้ว สิ่งต่อไปที่จะต้องทำคือการยื่นภาษี อย่าลืมว่าการยื่นภาษีไม่เท่ากับการเสียภาษีนะ
วิธีคำนวณภาษีแบบเหมา
ภาษีแบบเหมาที่ต้องเสีย = เงินได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน x 0.005
วิธีคำนวณภาษีแบบเหมาจะสามารถทำได้เมื่อมีรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน หรือเงินได้ประเภท 1 หากรายได้จากทางอื่นมีจำนวนทั้งหมด 120,000 บาท ที่ไม่ใช่เงินเดือนไปคูณ 0.005% จะเท่ากับคุณจะต้องเสียภาษี 600 บาท