TL;DR – ยาวไปไม่อ่าน
พฤติกรรมความเป็นชายเป็นพิษ หรือ Toxic Masculinity ในสถานที่ทำงานส่งผลกระทบต่อผู้คนและองค์กร คุณในฐานนะเจ้าของกิจการสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ด้วยการเริ่มต้นจากการเข้าใจและการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความเสมอภาคในองค์กร
สถานที่ทำงานที่ดีควรมีสภาวะแวดล้อมที่เป็นมิตร และเอื้ออำนวยสำหรับความหลากหลายและการรวมกันในทุกๆ ด้าน เพราะการสนับสนุนคนที่มาจากแวดวงต่างๆ และการรับฟังจุดยืนที่แตกต่าง เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโตและเป็นที่ยอมรับ ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง พฤติกรรมความเป็นชายที่เป็นพิษในสถานที่ทำงาน และนำเสนอเคล็ดลับและแนวทางที่สามารถนำไปใช้ในการจัดการแก้ไข สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการ
Toxic Masculinity คืออะไร?
Toxic Masculinity หรือ ความเป็นพิษของความเป็นผู้ชายมักเกิดจากแนวคิดและความคาดหวังของสังคม สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผู้ชายรู้สึกถูกผูกขาด ไม่สามารถแสดงออกอารมณ์ของตนได้อย่างเต็มที่ และมีการกำหนดหน้าที่แบบเต็มที่ว่าผู้ชายต้องเป็นผู้นำและมีอำนาจเหนือผู้อื่น ความเป็นพิษนี้มีผลกระทบที่ไม่ดีต่อบุคลากรและองค์กร
Toxic Masculinity หรือ พฤติกรรมความเป็นชายเป็นพิษ เป็นรูปแบบของพฤติกรรมและทัศนคติที่ส่งเสริมความเป็นอันตรายและเสียหายในผู้ชายและองค์กร มันอาจเป็นผลมาจากความเครียดทางสังคมหรือความกดดันในการเป็น “ผู้ชายแบบที่ถูกต้อง” และมักก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ความเกรี้ยวกราด การกดดันทางเพศ การยอมรับแค่บทบาทที่เกี่ยวกับความแข็งแกร่ง และการปกปิดความอ่อนแอ
ผลกระทบของ Toxic Masculinity ในสถานที่ทำงาน
Toxic Masculinity สร้างสภาวะที่ไม่พึงประสงค์ในสถานที่ทำงาน มันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างทีมงาน และสร้างความเครียดทางจิตใจในผู้คน นอกจากนี้ มันยังมีผลต่อผลิตภาพและผลการทำงานขององค์กร เพราะพฤติกรรมชายที่เป็นพิษส่งผลทำให้ผู้ชายและผู้หญิงรู้สึกไม่สบายใจ
3 สัญญาณบ่งชี้ Toxic Masculinity ในสถานที่ทำงาน
ในสถานที่ทำงานนั้น คุณสามารถสังเกตข้อบ่งชี้ของ Toxic Masculinity ในสถานที่ทำงานได้จากพฤติกรรมและทัศนคติที่พบบ่อยๆ ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อคนในองค์กร และนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ความไม่พอใจของพนักงานที่ลดลง อัตราการลาออกที่สูงขึ้น และความจำกัดของความคิดสร้างสรรค์
- ความเป็นเจ้านายกับทุกสิ่ง: บางครั้งมาตรฐานชายอาจมีความเชื่อว่าต้องเป็นเจ้านายทุกสิ่งในองค์กร และให้ค่ากับตัวเองมากกว่าการที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น ผลที่เกิดนี้อาจลดความเชื่อมั่นและความมั่นคงของพนักงาน และองค์กรจะไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย: บางครั้งความเป็นพิษนี้อาจทำให้เกิดการแบ่งแยกฝ่ายในองค์กร ทำให้พนักงานที่ไม่สอดคล้องกับแนวคิด “ความเป็นชาย” ต้องเผชิญกับความกดดันและความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้น ผลกระทบของการแบ่งฝ่ายอาจส่งผลให้ความรู้สึกของพนักงานเกี่ยวกับความเป็นส่วนหนึ่งของทีมลดลง และอาจทำให้เกิดการมองข้ามความรับผิดชอบและความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน
- กลัวสายตาคนอื่น: ความกลัวที่ว่าจะโดนคนอื่นมองว่าตัวเองอ่อนแอ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ หรือคิดไปเองว่าไม่ได้รับการยอมรับในที่ทำงาน ซึ่งอาจจะทำให้พนักงานคนนั้นทำงานได้อย่างไม่มีความสุข
3 วิธีรับมือกับ Toxic Masculinity ในที่ทำงาน
คุณในฐานะผู้ประกอบการสามรถรับมือ Toxic Masculinity ในที่ทำงานจาก 3 วิธีนี้ดังนี้
- สนับสนุนความเสมอภาค: กระตุ้นให้เกิดโอกาสเท่าเทียม การปฏิบัติที่เป็นธรรมในการติดต่อระหว่างเพศ และนโยบายที่เป็นกลางเพศ
- เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมในการเติบโตและพัฒนาในองค์กร
- สร้างมาตรการที่ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในการสร้างโอกาสการเจริญเติบโตและรายได้
- สนับสนุนการสื่อสารเปิดเผย: สร้างสภาพแวดล้อมที่สมาชิกในองค์กรรู้สึกปลอดภัยในการพูดคุยเกี่ยวกับความกังวลและประสบการณ์ของพวกเขา
- สร้างและส่งเสริมวัฒนธรรมการสื่อสารที่เปิดเผยและยอมรับความแตกต่าง
- สร้างพื้นที่เพื่อพนักงานที่มีประสบการณ์หรือความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์สำหรับการเติบโตขององค์กร
- ให้การศึกษาและการฝึกอบรม: ให้เสนอเวิร์กชอปหรือเสวนาเกี่ยวกับหัวข้อที่เกี่ยวข้องเช่นความหลากหลาย อัตราส่วนความไม่ตรงสัมพันธ์อัตโนมัติ และการสื่อสารที่เชิดชูความเคารพ