TL;DR – ยาวไปไม่อ่าน
ในฐานะที่คุณเองเป็นผู้ประกอบการ การรู้เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจและป้องกันกระทำที่ผิดกฏหมาย บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจกฎหมายแรงงานในมุมมองของผู้ประกอบการ โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เรื่องสัญญาจ้างแรงงาน กฎหมายประกันสังคม และพระราชบัญญัติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เป็นเรื่องที่เจอได้บ่อยกับการที่นายจ้าง หรือผู้ประกอบการทำผิดกฎหมายแรงงาน แต่ในหลายกรณีพวกเขาทำผิดเพราะความไม่รู้ เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคุณ ในบทความนี้เราจึงรวมกฎหมายแรงงานที่คุณจะต้องรู้จักเพื่อป้องกันไม่ให้คุณทำผิดกฎหมาย
ไม่อยากทำผิดกฎหมาย ห้ามพลาด 8 กฎหมายแรงงานที่ผู้ประกอบการต้องรู้
กฎหมายคุ้มครองแรงงาน
เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับในเรื่องสิทธิ หน้าที่ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง เช่น การกำหนดจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ การกำหนดในเรื่องของแรงงานหญิง แรงงานเด็ก หากนายจ้างไม่รู้กฎหมายหมวดนี้และกำหนดค่าจ้างที่ขัดแย้งกับกฎหมายคุ้มครองแรงงาน สัญญาจ้างก็จะเป็นโมฆะ อีกทั้งยังจะรวมถึงเนื้อหาของสัญญาจ้างงาน การจ่ายค่าจ้าง การทำงานในเวลาทำงาน การพักผ่อน การลางาน และสิทธิอื่น ๆ ของลูกจ้างที่คุณควรรู้จักและปฏิบัติตามในการดำเนินธุรกิจของคุณ
สัญญาจ้างแรงงาน
เป็นการจำกัดเรื่องเสรีภาพ ในการทำสัญญาจ้างลูกจ้าง เป็นข้อสัญญาระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ส่วนใหญ่จ้างโดยการทำเป็นหนังสือ ซึ่งลูกจ้างตกลงทำงานให้แก่บุคคลหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “นายจ้าง” ต้องจ่ายค่าจ้างตลอดระยะเวลาที่ทำงานให้ สัญญาจ้างแรงงานเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการปกป้องสิทธิและความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง คุณควรจะมั่นใจว่าสัญญาจ้างแรงงานของคุณเป็นไปตามกฎหมายและช่วยลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
กฎหมายประกันสังคม
กฎหมายประกันสังคมมีไว้เพื่อปกป้องและสนับสนุนสวัสดิการสังคมลูกจ้างของคุณ และ เป็นกฎหมายที่กำหนดในเรื่องของหลักประกันแก่บุคคลในสังคม โดยมีการจ่ายเงินเข้ากองทุน แล้วเฉลี่ยคืนให้กับลูกจ้าง การปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคมช่วยให้คุณและลูกจ้างของคุณมีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและการรับผลประโยชน์ในกรณีฉุกเฉิน โดยแบ่งออกเป็น 7 กรณี ดังนี้ คือ
- กรณีเจ็บป่วย
- กรณีคลอดบุตร
- กรณีชราภาพ
- กรณีทุพพลภาพ
- กรณีสงเคราะห์บุตร
- กรณีตาย
- กรณีว่างงาน
พระราชบัญญัติเงินทดแทน
พระราชบัญญัติเงินทดแทนให้ลูกจ้างมีสิทธิในการได้รับเงินทดแทนค่ารักษาพยาบาล หรือเป็นเงินที่จ่ายให้กับลูกจ้างตามสิทธิ ในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องประเมินความเสียหายในทางที่เกี่ยวข้องกับการเสียค่ารักษาพยาบาล การเสียค่าชดเชยรายได้ที่สูญเสีย และค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน.
พระราชบัญญัติความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน
เป็นระเบียบบังคับที่มีความสำคัญของความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นกฎหมายที่กำหนดมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้มีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับลูกจ้าง มันรวมถึงการกำหนดมาตรการควบคุมความเสี่ยงต่าง ๆ เช่น การป้องกันอุบัติเหตุ การควบคุมสารเคมี การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ปลอดภัย และการจัดหาความรู้เกี่ยวกับอาชีวอนามัยให้แก่ลูกจ้าง การปฏิบัติตามกฎหมายนี้ช่วยให้คุณและลูกจ้างของคุณมีการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและพัฒนาการปฏิบัติอาชีพอย่างยั่งยืน
พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
เป็นการสนับสนุนและการใช้ประโยชน์จากกฎหมายเพื่อการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีระเบียบบังคับที่ให้นายจ้างหรือสถานประกอบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือแรงงานแก่ลูกจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมหรือภาคธุรกิจที่ต้องการความเชี่ยวชาญพิเศษ ส่วนที่สำคัญของพระราชบัญญัตินี้คือการส่งเสริมการฝึกอบรมทางวิชาชีพและการพัฒนาทักษะให้กับลูกจ้าง เพื่อให้พวกเขามีความสามารถในการทำงานที่ดีขึ้นและเติบโตเป็นช่างมือชำนาญในสายงานที่เกี่ยวข้อง
พระราชบัญญัติพัฒนาคุณภาพชีวิต
เป็นกฎระเบียบด้านคนพิการ นายจ้าง หรือ เจ้าของกิจการ หรือสถานประกอบการ กล่าวคือ ถ้ามีการรับคนพิการ เข้าทำงานหรือส่งเงินเข้ากองทุน ได้รับการยกเว้นภาษีร้อยละของจำนวนเงินค่าจ้างที่จ่ายให้แก่คนพิการ โดยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของลูกจ้างให้ดียิ่งขึ้น
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง เน้นเกี่ยวกับการสภาพการจ้างของลูกจ้าง การเลิกจ้าง และการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างในสถานประกอบการ โดยรวมถึงเรื่องการยกเลิกสัญญาจ้างงาน การพักผ่อน การลางาน การคำนวณเงินเดือน การปฏิบัติตามกฎระเบียบในสถานที่ทำงาน และการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความเป็นธรรมในความสัมพันธ์แรงงานและสร้างสภาพการทำงานที่เป็นมิตรและเต็มใจต่อกัน